คนใหม่ฟอร์มแรง “ลิเวอร์พูล” หงส์แดง เก็บ 6 คะแนนเต็มจากศึก พรีเมียร์ลีก 2 เกมแรก
คนใหม่ฟอร์มแรง ข้างหลังเปิด แอนฟิลด์ เอาชนะ เบิร์นลี่ย์ ไปแบบไม่ยากเย็นนัก 2-0 เมื่อตอนค่ำวันเสาร์ก่อนหน้าที่ผ่านมา สมาชิกของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ได้ประตูจาก ดีโอโก้ โชต้า ที่สลัดกระแทกผ่านมือ นิค โป๊ป พร้อมเป็นแอสซิสต์ของ คอสตาส ซิมิกาส
ส่วนประตูจบท้ายได้จาก ซาดิโอ มาเน่ ที่เบิกสกอร์แรกในช่วงฤดูกาลนี้ได้เสร็จ ในส่วนของความน่าดึงดูดใจจะมีอะไรบ้าง มีเรื่องมีราวไหนให้น่ากล่าวถึง มาเช็ก 5 ใจความสำคัญจากเกมนี้กันได้เลย
เจ้าหนูเอลเลียตต์ ออกตัวตัวจริง เดอะ ค็อป กว่า 5 หมื่นผู้ที่ได้เข้าชมเกมใน แอนฟิลด์ กับบรรยากาศอันเคยชิน รวมทั้งแฟนหงส์ทั่วทั้งโลกต่างแปลกใจที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ เลือก ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ลงเป็นตัวจริง เปิดสิ่งน่าดึงดูด
ในวันที่กองกลาง “ลิเวอร์พูล” หลายรายต่างไม่พร้อมลงสู่สนาม เจมส์ มิลเนอร์ มีลักษณะเจ็บนิดหน่อย, ฟาบินโญ่ ติดภารกิจเรื่องส่วนตัว(คุณพ่อเพิ่งจะเสีย) แล้วก็ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ไม่มีชื่อเกมนี้
ก็เลยทำให้ เอลเลียตต์ ได้รับช่องทาง นี่เป็นการลงเล่นเป็น 11 คนแรกบนเวทีลีกสูงสุดของเขา รวมทั้งผลที่ออกมาก็เป็นไปตามที่นายจ้างหวังไว้ นั่นเป็นฟอร์มการเล่นอันเยี่ยมยอด
“ผมไม่เซอร์ไพรส์เลยที่เขาเล่นได้อย่างงี้ นั่นเป็นสิ่งที่เขาฝึกซ้อมให้มองเห็นมาตลอดตอน 6-7 อาทิตย์” ถ้อยคำจากปาก คล็อปป์ ที่กล่าวถึงผู้ร่วมทีมวัย 18 ปีรายนี้ เอลเลียตต์ มีส่วนร่วมกับเกมสูง ทั้งยังยังเรียกฟาวล์จากผู้เล่น เบิร์นลี่ย์ ได้บ่อยมาก
คนใหม่ฟอร์มแรง เสียงเชียร์ที่ แอนฟิลด์
คนใหม่ฟอร์มแรง บรรยากาศ และก็เสียงเชียร์ที่เคยชินกลับมาในเกมนี้ แฟนบอล 52,000 คนต่างสุขสบาย แล้วก็สนุกสนานกับการหวีดร้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนช่วงหลัง นิค โป๊ป พบรับน้องเล็กๆข้างหลังเกมผ่านไป 6 นาทีพากเพียรดึงเกมช้าตอนเล่นลูกตั้งแต่หน้าปากประตู
คนใหม่ฟอร์มแรง นั่นเป็นสัญญาณเตือนเขาแล้วว่าตนเองกำลังลงเล่นกับสนามที่มีคู่รักบอลเจ้าถิ่นสนับสนุน ข้างหลังเวลาพักครึ่ง ตอนต้นช่วงหลัง กลุ่มเยี่ยมเปลี่ยนเป็นข้างถือครองบอลได้ดีมากยิ่งกว่า ซึ่งการเคลื่อนที่บนเกมรุกก็ถูกปลุกโดยเสียงจากแฟนบอลที่อัฒจันทร์
โดยก่อนเริ่มเกมมีเสียงเพลงเชียร์ ซาลาห์, ฟาน ไดค์ และก็ ฟีร์มีโน่ ซึ่งเป็นไปอย่างสนุก ข้างหลังผ่านฝันร้ายที่ แอนฟิลด์ ไม่มีแฟนบอลเมื่อปีก่อน นี่เป็นข้อแตกต่างอย่างสิ้นเชิง รวมทั้งผู้ที่น่าประทับที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้น ซิมิกาส ที่ระหว่างเดินสลับตัวออก ผลบอลเมื่อคืน
เสียงตบมือจาก “เดอะ ค็อป” ดังลั่น เป็นความถูกใจที่ยากจะเลือน โชต้า ในตอนเข้าฝัก แม้ว่าจะมิได้ลงเล่นครบ 90 นาทีทั้งคู่เกมแรก แต่ว่าแนวรุกกลุ่มชาติประเทศโปรตุเกส รายนี้เป็นหัวใจสำคัญที่เบิกสกอร์แรกให้ หงส์แดง
ทั้งสองเกม โชต้า เป็นผู้เล่นที่ทำเป็นดีเสมอในจังหวะเข้าทำแต้ม ไม่ว่าจะลูกยิงหรือลูกกระแทก เป็นนักฟุตบอลที่ทำผลงานดีที่สุดบ่อยทุกคราวยามที่สบโอกาสลงในสนาม ฤดูกาลที่แล้ว โชต้า ทำแต้มไป 8 ลูกในระหว่างตอนต.ค. ถึงพ.ย. และก็ได้มีส่วนเกมสามผสานแนวรุก ก่อนจะเจ็บจำต้องหยุดไม่มีกำหนด มาในช่วงฤดูกาลนี้
เขาเริ่มด้วยการเป็นตัวจริงทั้งคู่ครั้งแรก รวมทั้งได้ช่องในตอนปรี-ฤดูกาล แล้วก็เป็นสัญญาณที่ดีกับเกมต่อๆไป ซึ่งความสม่ำเสมอนั้นเป็นกุญแจดอกสำคัญ
ยกฐานะ 45 นาทีข้างหลัง
คนใหม่ฟอร์มแรง มีเพียงแค่ไม่กี่นาทีที่ เบิร์นลี่ย์ ครอบครองบอลได้เหนือกว่าเจ้าถิ่น แต่ว่าขณะที่เหลือ หงส์แดง เป็นข้างรีบขับเคลื่อนบุกตามหาประตูต่อๆไป ซาลาห์, มาเน่, โชต้า, ฟาน ไดค์ แล้วก็ เอลเลียตต์ ต่างเปิดหัวช่วงหลังด้วยการผลิตจังหวะทำคะแนน แต่ว่าก็ติดเซฟของผู้เล่น เบิร์นลี่ย์ และก็ยังรวมทั้งเพื่อนพ้องร่วมกลุ่มร่วมกันเอง
กระทั่งท้ายที่สุดก็มาได้ประตูลำดับที่สองจากหน้าแข้งเซเนกัล ที่รับบอลต่อจาก เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ สังหารเข้าไปอย่างเด็ดขาด ซึ่งการเข้าทำนี้มีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนจากรับเป็นรุกอย่างเร็ว
เริ่มจาก ฟาน ไดค์ โยนบอลจากแนวลึกให้ เอลเลียตต์ ก่อนที่จะ มาเน่ จะเป็นคนปิดบัญชี ถ้าหาก หงส์แดง รีบสปีดเกม มีไม่กี่กลุ่มหรอกที่จะสามารถเอาพวกเขาอยู่ได้ มุ่งไปสู่ บิ๊ก แมตช์ เกมถัดไปของ หงส์แดง ที่จะพบกับ เชลซี นั้น ถูกคิดว่าเป็นเยี่ยมในแมตช์ของสองกลุ่มที่ลุ้นแข่งขันบัลลังก์แชมป์ลีก
แม้กระนั้นแน่ๆล่ะว่า มันคงจะเร็วไปที่จะนิยามแบบงั้นได้ อย่างไรก็ดี เชลซี เป็นกลุ่มที่ฟอร์มการเล่นบ่อยที่สุดกลุ่มหนึ่ง ภายหลังได้ โธมัส ทูเคิ่ล เข้ามาเป็นแม่ทัพ โดยผู้เล่นรวมทั้งระบบกลุ่มเป็นลักษณะเด่น
ซึ่งการพบกันที่ แอนฟิลด์ ครั้งนี้ไม่ว่าอย่างไรนั่นก็คือเกมที่เจ้าถิ่นจำเป็นจะต้องเก็บชัยให้ได้เพื่อสร้างเสริมพลังใจ ผู้เล่นที่หายไปจากเกมปัจจุบัน บางทีอาจได้กลับคืนสนาม ฟาบินโญ่ มีสิทธิ์ รวมทั้ง ติเตียนอาโก้ อัลกันตาร่า ที่ลุ้นว่าจะฟิตพอเพียงหรือเปล่าสำหรับในการเป็นตัวจริง
สาระสำคัญของปีนี้ เป็นการได้ ฟาน ไดค์ คนเดิมกลับมาทำหน้าที่เป็นแม่ทัพแนวรับ ในช่วงเวลาที่ อลีสซง ก็กลับฟอร์มนายด่านสุดยอด นี่เป็นการเริ่มต้นที่สุดยอด เหลือเพียงแค่ว่าจะรักษาสิ่งพวกนี้ไว้ได้ตลอดไหม
