จังหวะสุดท้าย ลิเวอร์พูล 1-1 คริสตัล พาเลซ: วิเคราะห์ 5 ประเด็นหลังเกม หงส์แดง 10 คนเจ๊า ปราสาทเรือนแก้ว

จังหวะสุดท้าย เกมรุกเอียงขวาประสานกันงานกันสนุกในช่วงต้น ลิเวอร์พูลเป็นฝ่ายครอบครองเกมอยู่เพียงฝ่ายเดียวอย่างเห็นได้ชัด พวกเขาเดินหน้าสร้างโอกาสโจมตีใส่ทีมเยือนครั้งแล้วครั้งเล่า แต่จังหวะสุดท้ายที่ขาดๆ เกินๆ ไปเล็กน้อยทำให้ไม่อาจส่งบอลสู่ก้นตาข่ายคริสตัล พาเลซได้

เกมข้างเดียวที่ แอนฟิลด์ แตกต่างถึงขนาดที่คริสตัล พาเลซไม่สามารถเคลื่อนบอลไปในกรอบเขตโทษของ ลิเวอร์พูลได้เลยใน 25 นาทีแรกของเกมชนิดที่สถิติในการสัมผัสบอลของ พาเลซในเขตโทษ หงส์แดง เป็น 0 ครั้ง

ผลของการพับสนามบุกอยู่ฝ่ายเดียวโดยที่ทีมเยือนตั้งรับลึกทำให้ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ โดดเด่นกับการขึ้นเกม วางบอลจากทั้งริมเส้นและแนวลึกสู่พื้นที่อันตราย จังหวะสุดท้าย สร้างโอกาสให้เพื่อนทำประตูครั้งแล้วครั้งเล่า

สมดุลแดนกลาง เอลเลียตต์-ฟาบินโญ-มิลเนอร์ เยอร์เก้น คล็อปป์ ไว้วางใจส่ง ฮาร์วีย์ เอลเลียต์ ลงประสานงานคู่กับ ฟาบินโญ และ เจมส์ มิลเนอร์ ที่แดนกลาง กลายเป็นส่วนผสมที่ทำได้น่าพอใจในระดับหนึ่งเมื่อดวลกับคู่แข่งอย่างพาเลซ

มิดฟิลด์ทีมชาติ บราซิล ปักหลักคัดท้ายในบทบาทโฮลดิ้งมิดฟิลด์โดยมี เจมส์ มิลเนอร์ เติมความดุดันทั้งในการไล่บีบพื้นที่และทะยานเติมขึ้นไปมีส่วนร่วมในพื้นที่อันตราย ขณะที่ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ วูบวาบกับการเคลื่อนเติมไปยังพื้นที่สุดท้ายและใช้ทักษะการไปกับบอลสร้างปัญหาให้กับแนวรับของพาเลซ

แต่สิ่งที่มิดฟิลด์ทั้ง 3 ดูจะขาดหายไปสักเล็กน้อยคือวิสัยทัศน์ในการผ่านบอลสู่พื้นที่สุดท้ายอย่างที่ ติอาโก้ อัลคันทารา เคยทำได้กับทีมโดยความหวือหวาของ เอลเลียตต์ ในช่วงต้นค่อยๆ หายไปจากเกมเมื่อเวลาผ่านไป เกมวันนี้

ปัญหาความเด็ดขาดของนูนเญซ และการเสียท่าถูกใบแดง ส่วนสูง ความแข็งแกร่ง และความคล่องตัวของดาร์วิน นูนเญซเป็นทางเลือกให้รูปแบบการโจมตีของลิเวอร์พูล หลากหลายยิ่งขึ้นกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด บอลไดเร็กต์ชนิดที่ให้นูนเญซ ไล่ตามเก็บที่แดนบนมีให้เห็นเยอะขึ้นเช่นเดียวกับความพยายามครอสบอลให้ดาวยิงทีมชาติ อุรุกวัย ทะยานโฉบเข้าหาบอลเพื่อจบสกอร์

แต่สิ่งที่ยังคงเป็นปัญหาสำหรับแข้งวัย 23 ปีความเด็ดขาดในการจบสกอร์จังหวะสุดท้าย ความพยายามของนูนเญซ ยังขาดๆ เกินๆ ในหลายครั้งส่งผลให้บอลออกจากเท้าของเจ้าตัวไม่ได้ลุ้นแม้ว่าเพื่อนร่วมทีมจะสร้างโอกาสถวายพานให้กับเขาครั้งแล้วครั้งเล่า

ผลงานส่วนตัวที่ว่าไม่น่าพอใจนักถูกยกระดับความเลวร้ายด้วยใบแดงชนิดเสียค่าโง่เมื่อเจ้าตัวเสียเหลี่ยมให้กับ โจอาคิม แอนเดอร์เซน ถูกยั่วโมโหจนตบะแตกเฮดบัตต์ใส่ปราการหลังทีมชาติ เดนมาร์ก ได้รับใบแดงโดยตรงไล่ออกจากสนามในที่สุด

ไลน์แนวรับลอยสูงและคู่ดวลกันระหว่าง ซาฮา วีเอส ฟิลลิปส์ ปาทริค วิเอรา วางแท็คติกในเกมนี้ด้วยรูปแบบ 5-4-1 จับเอา วิลฟรีด ซาฮา ปักหลักเป็นกองหน้าตัวเป้ารอโอกาสในการสวนกลับเร็ว จังหวะสุดท้าย ใช้ความเร็วโจมตี แนท ฟิลลิปส์ โดยตรง

ซาฮา แสดงให้เห็นถึงความคล่องตัวและสปีดต้นที่สามารถเล่นงาน ฟิลลิปส์ ให้เห็นในช่วงต้นก่อนที่เขาจะกลายเป็นคนชิงจังหวะ เอาชนะปราการหลังวัย 25 ปีสำเร็จหลุดเข้าไปดวลเดี่ยวกับ อลิสซอน เบ็คเกอร์ ไม่พลาดเป็นประตูขึ้นนำ 1-0

กองหน้าทีมชาติ ไอวอรี โคสต์ ยังคงสร้างปัญหาให้กับ ฟิลลิปส์ หลังจากนั้นและนับว่าเป็นโชคดีของ ลิเวอร์พูลที่ ซาฮา สามารถมีชื่อบนสกอร์บอร์ดได้เพียงครั้งเดียว ดิอาซ งัดทีเด็ด ทักษะของ หลุยส์ ดิอาซ ยังคงเพลินตาเช่นเคย

เมื่อเจ้าตัวถูกส่งลงสนามประจำการที่กราบซ้ายและจบเกมด้วยสถิติกลายเป็นแข้ง หงส์แดง ที่เลี้ยงผ่านคู่แข่งมากที่สุดในสนามจำนวน 7 ครั้ง หนึ่งในนั้นคือความพยายามกระชากหนีกลุ่มผู้เล่น พาเลซเลี้ยงตัดจากริมเส้นฝั่งซ้ายเข้ามาสร้างโอกาสจบสกอร์ที่หน้ากรอบเขตโทษอย่างถนัดถนี่

ดิอาซ ดูจะเล่นอย่างมีความมั่นใจมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเวลาผ่านไปในเกมนี้ เขาใช้ความสามารถเฉพาะตัวในการไปกับบอลและครอบครองบอลสร้างปัญหาให้แดนหลังของทีมเยือนอย่างต่อเนื่อง https://www.choctawbowmen.com

จังหวะสุดท้าย

ตะเพิดนูนเญซ! ลิเวอร์พูล 10 คนไล่ตามเจ๊า พาเลซ1-1 พรีเมียร์ลีก คืนวันจันทร์

ลิเวอร์พูลที่เหลือผู้เล่น 10 คนจากการที่ดาร์วิน นูนเญซถูกใบแดงโดยตรงไล่ออกจากสนามเสมอกับคริสตัล พาเลซ1-1 ชนิดที่พับสนามบุกแต่กลับตกเป็นฝ่ายตามหลังตั้งแต่ครึ่งแรก ก่อนจะไล่ตามตีเสมอสำเร็จในครึ่งหลัง

เกมที่ แอนฟิลด์ ตกเป็นของ หงส์แดง ตั้งแต่เริ่มต้น ลูกทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ เป็นฝ่ายครอบครองบอลพับสนามเปิดเกมรุกเข้าใส่ทัพ ปราสาทเรือนแก้ว อย่างต่อเนื่องโดยทีมเยือนลงไปตั้งรับลึกรอจังหวะสวนกลับ

ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และดาร์วิน นูนเญซเรียงคิวมีโอกาสล่อเป้าทีมเยือนครั้งแล้วครั้งเล่าแต่ก็ไม่อาจเจาะตาข่าย บิเซนเต้ กูไอต้า ได้กระทั่งลูกทีมของ ปาทริค วิเอรา ฉวยโอกาสจากจังหวะโต้กลับในนาทีที่ 32 บอลพลิกจากแดนตัวเองของ เอเบเรชี เอเซ แทงคิลเลอร์พาสให้ วิลฟรีด​ ซาฮา หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปล่อเป้ากับ อลิสซอน เบ็คเกอร์ ไม่พลาดเป็นประตูขึ้นนำ 1-0 ของพาเลซ

เกมในครึ่งแรกลงเอยด้วยสกอร์ดังกล่าวและรูปเกมในช่วงต้นครึ่งหลังยังคงอยู่ในรูปแบบเดิม แต่แล้วดาร์วิน นูนเญซก็มาได้รับใบแดงโดยตรงถูกไล่ออกจากสนามในนาทีที่ 57 จากการตบะแตกขวิดใส่ โจอาคิม แอนเดอร์เซน หลังมีจังหวะตอดเล็กตอดน้อยใส่กันก่อนหน้า

ให้หลังจากที่ นูนเญซถูกไล่ออกไม่กี่อึดใจ เร้ดแมชีน ก็มาได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากการกระชากเลี้ยงจึ้ของ หลุยส์ ดิอาซ ที่ริมเส้นฝั่งซ้าย ฝ่าเหล่าผู้เล่นแนวรับทีมเยือน 4 คนก่อนซัดด้วยขวาผ่านมือ บิเซนเต้ กูไอต้า ตุงตาข่าย

ช่วงเวลาที่เหลือลิเวอร์พูล ยังเป็นฝ่ายครอบครองเกมเปิดเกมรุกเข้าใส่แม้จะเหลือผู้เล่น 10 คนแต่ก็ไม่มีสกอร์เพิ่มเติมและจบ 90 นาทีด้วยการแบ่งแต้มทีมละคะแนน

รายชื่อผู้เล่นของทั้ง 2 ทีม
ลิเวอร์พูล: อลิสซอน; อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, ฟิลลิปส์ (โกเมซ 63′), ฟาน ไดค์, โรเบิร์ตสัน (ซิมิคาส 63′); เอลเลียตต์ (คาร์วัลโญ 80′), ฟาบินโญ, มิลเนอร์ (เฮนเดอร์สัน 63′); ซาลาห์, นูนเญซ, ดิอาซ
ผู้เล่นสำรองที่ไม่ได้ใช้งาน: อาเดรียน, บาจเซติช, คลาร์ค, เกอิต้า, ฟาน เดน เบิร์ก

คริสตัลพาเลซ: กูไอต้า; ไคลน์, วอร์ด, แอนเดอร์เซน, เกฮี, มิทช์เชลล์ (ริชาร์ดส์ 80′); เอเซ (มิลิโวเยวิช 80′), ดูกูเร (ฮิวจ์ส 79′), ชลุปป์ (โอลิเซ 88′), ซาฮา; อายิว (เอดูอาร์ 63′)
ผู้เล่นสำรองที่ไม่ได้ใช้งาน: เอบิโอเว, จอห์นสตัน, มาเตต้า, แพลงก์ ผลบอลเมื่อคืน

จังหวะสุดท้าย

สื่อฝอยทองปูด ลิเวอร์พูลติดต่อ สปอร์ติ้ง ทาบ นูเนส แล้ว

มีรายงานว่าสโมสร ลิเวอร์พูลทีมดังจาก พรีเมียร์ลีก ได้มีทาบทาม มาเธอุส นูเนส กองกลางของ สปอร์ติ้ง ลิสบอน แล้วหลังจากที่ตกเป็นข่าวกันอย่างหนักในช่วงหลัง ตามรายงานจาก ลิเวอร์พูลเอ็คโค

มิดฟิลด์วัย 23 ปีถูกยกให้เป็นตัวเต็งที่จะย้ายมายังถิ่น แอนฟิลด์ ในขณะที่ เยอร์เก้น คล็อปป์ กำลังประสบปัญหากองกลางตัวหลักอย่าง ติอาโก้ อัลคันทารา ได้รับบาดเจ็บต้องพักยาว 6 สัปดาห์ ก่อนจะปิดตลาดซื้อขายซัมเมอร์ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

รายงานล่าสุดจาก A Bola สื่อดังของโปรตุเกสเปิดเผยว่า หลังจากที่ตกเป็นข่าวกันมาระยะหนึ่งทางลิเวอร์พูล ได้มีการสอบถามถึงความเป็นไปได้ในการย้ายทีมของ นูเนส กับทาง สปอร์ติ้ง แล้ว แต่ท้ายที่สุดพวกเขาก็ยังไม่มีการยื่นข้อเสนออย่างเป็นทางการแต่อย่างใด

คาดกันว่าค่าตัวของแข้งโปรตุกีสรายนี้จะอยู่ที่ประมาณ 42.2 ล้านปอนด์ และมีข่าวว่าเจ้าตัวได้ปฏิเสธทาง วูล์ฟแฮมป์ตัน และ เวสต์แฮม ไปเนื่องจากต้องการย้ายไปเล่นให้กับทีมที่ได้ไป ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก เท่านั้น

อดีต ผอ.ลิเวอร์พูลบอกปัดโอกาสร่วมงาน เชลซี ไมเคิล เอ็ดเวิร์ดส์ อดีตผู้อำนวยการด้านกีฬาของสโมสรลิเวอร์พูล ปฏิเสธโอกาสในการย้ายไปทำงานให้กับ เชลซี ทีมคู่แข่งในศึก พรีเมียร์ลีก แล้วหลังจากที่เจ้าตัวเพิ่งอำลาถิ่น แอนฟิลด์ เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ตามรายงานจาก ลิเวอร์พูลเอ็คโค

ผู้บริการคนเก่งเพิ่งหมดสัญญากับ หงส์แดง หลังจบซีซันก่อน โดยตำแหน่งนี้ตกเป็นของ จูเลียน วอร์ด ที่ถูกดันขึ้นมาจากการเป็นผู้ช่วยของเขา ในขณะที่เจ้าตัวเองก็ตกเป็นข่าวกับหลายสโมสรใน พรีเมียร์ลีก

เอ็คโค ได้อ้างรายงานจาก ดิแอตเลติก ที่ระบุว่า เชลซี เป็นหนึ่งทีมที่มีความตั้งใจจะดึง เอ็ดเวิร์ดส์ มานั่งเป็นผู้อำนวยการด้านกีฬาของทีมและมีการพยายามโน้มน้าวอย่างต่อเนื่อง แต่ล่าสุดอดีต ผอ.ของทีม หงส์แดง ก็ได้ตอบปฏิเสธไปแล้ว

รายงานระบุว่า ผู้บริหารหนุ่มรายนี้ได้แจ้งกับทีมจากลอนดอนว่าเขายังไม่พร้อมจะเข้ารับตำแหน่งในตอนนี้ ซึ่งนอกจาก สิงห์บลู แล้วยังมี แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่มีข่าวพร้อมจะดึไปร่วมงานในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด ตั้งแต่ช่วงต้นซัมเมอร์ แต่ข่าวคราวก็เงียบหายไป