เลวานดอฟสกี้เผย โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ หัวหอกจอมเก๋าบาเยิร์น มิวนิค เผยเรื่องน่าตื่นเต้นว่าเขามีโอกาสได้คุยกับเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เมื่อปี 2012

เลวานดอฟสกี้เผย โรเบิร์ต กองหน้าฟอร์มฮอต “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค เผยตนเกือบได้ย้ายไปเล่นให้กับ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อปี 2012 แต่ว่าสุดท้ายการย้ายกลุ่ม จำต้องล้มเหลวเนื่องจากว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ ปฏิเสธที่จะขายยุคที่อยู่กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์

หัวหอกชาวโปแลนด์ ทำผลงานได้อย่างร้อนแรงยุคที่สวมเสื้อให้กับ “เสือเหลือง” เมือแทบ 10 ปีกลาย โดยในเวลานั้นเขาสร้างชื่อให้ตนเองกลายเป็นยอดศูนย์หน้าระดับโลก รวมทั้งทำให้บรรดาสมาพันธ์ยักษ์ใหญ่ทั่วยุโรป แสดงความพอใจอยากได้ตัวไปเสริมกองทัพอย่างมาก ผลบอลย้อนหลัง

หนึ่งในซึ่งก็คือ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่มีเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จับบังเหียน และก็พวกเขามีโอกาสที่จะได้นักฟุตบอลมาร่วมทัพอเพียงยู่แล้ว แม้กระนั้นท้ายที่สุดทุกอย่างจำต้องล้มเหลว เพราะว่า คล็อปป์ ซึ่งในช่วงเวลานั้นปฏิบัติหน้าที่คุมกองทัพ ดอร์ทมุนด์ ไม่ยินยอมขายเขา โดยซึ่งคว้ารางวัล นักฟุตบอลดีที่สุดชายที่ปี 2020 ของฟีฟ่า พูดว่า “ภายหลังปีที่สอง กับดอร์ทมุนด์ ผมได้เสวนากับ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน”

“เขาต้องการที่จะให้ผมย้ายไปเล่นกับ แมนเชสเตอร์ ตัวผมเองก็พอใจมากมายๆผมสามารถพูดได้เลยว่าผมพร้อมย้ายไปเล่นตรงนั้น แต่ว่า ดอร์ทมุนด์ ไม่ต้องการปล่อยผมออกไป มันก็มิได้ทำให้ผมรู้สึกผิดหวังมากนักสำหรับหัวข้อนั้น เนื่องจากว่ามีหลายอย่างๆกำลังเดินทางไปได้งามกับ ดอร์ทมุนด์” แผงหน้าจอมเก๋า วัย 32 ปี กล่าว

แผงหน้าตัวเก่งของทัพเสือใต้ ทำสถิติยิงแตะต้องหลัก 40 ประตูทุกรายการได้เป็นฤดูที่ 5 ต่อเนื่องกัน เท่ากันสองแนวรุกตัวเก่งของโลก

แนวรุกตัวเก่งของ บาเยิร์น มิวนิค สร้างสถิติเป็น นักฟุตบอล ที่คนสามที่ทำเป็น 40 ประตูในทุกรายการติดต่อกัน 5 ฤดู ต่อจาก คริสเตียโน โรนัลโด้ และก็ ลิโอเนล เมสซี

หัวหอกกลุ่มชาติโปแลนด์กดจุดลูกโทษเป็นประตูข้ึนนำก่อนพาทัพเสือใต้บุกไปเอาชนะยูนิโอน เบอร์ลิน 2-0 รั้งผู้นำฝูงของบุนเดสลีก้าแน่นแฟ้น โดยพวกเขามีคะแนนนำหน้าโบรุสเซีย ดอร์ทมนุด์ ชั้นสองอยู่ 4 คะแนนขณะที่เหลือการแข่งขันอีก 8 นัด

โดยประตูในเกมดังกล่าวเป็นประตูที่ 40 ทุกรายการในช่วงฤดูกาลนี้ของ สร้างสถิติเป็นนักเตะผู้ที่ 3 ต่อจาก โรนัลโด้ รวมทั้ง เมสซี ที่ทำเป็น 40 ประตูใน 5 ฤดูติดต่อกัน ในศตวรรษที่ 21

นอกนั้น ยังมีลุ้นทำลายสถิติทำประตูสูงที่สุดในบุนเดสลีก้า ต่อฤดูของ แกรด มุลเลอร์ ที่ทำเอาไว้ที่ 40 ประตู โดยปัจจุบันนี้เขานำเป็นดาวซัลโวลีกอยู่ที่ 26 ประตู

เรื่องราวระหว่าง กองหน้ากลุ่ม ชาติประเทศโปแลนด์วัย 27 ปี กับอาร์เยน นักฟุตบอลเกมรุก กลุ่มชาติฮอลแลนด์วัย 31 ปี เป็นที่รู้กัน ในกลุ่ม ของนักฟุตบอล “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค แล้วก็แฟนบอล เรือติดลมบน

ล่าสุดเป็นเหตุหลังเกม “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค กระหน่ำ “ม้าขาว” สตุ๊ตการ์ท 4-0 ในอัลลิอันซ์ อารีน่า ซึ่งเป็น เหตุการณ์อย่างน้อย 2 ครั้ง ที่ทำให้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ออกอาการหงุดหงิด อย่างมาก โดยในนาทีที่ 52 รวมทั้งในนาทีที่ 71  ไม่ผ่านบอลให้ ที่เตรียมพร้อม สำหรับการชาร์จเข้ามา เป็นประตูตุงก้นตาข่าย

ไม่ส่งบอลให้ ถ้าหากแต่ บากบั่นที่ จะลากต่อเข้าไปหาจังหวะยิงเอง ทำให้ ถึงกับโวยวายอย่างมาก ซึ่ง อาร์เยน ก็ไม่ออกอาการ ยี่หระอะไร ซึ่งเรื่องราวทำนองนี้ ใช่ว่าจะ พึ่งเกิดขึ้น ถ้าแต่เป็นมาบ่อยมากแล้ว

หัวข้อนี้เป็นหัวข้อกินใจระหว่างนักเตะทั้งยัง 2 ความสัมพันธ์ระหว่าง กันก็เลยเย็นชา ซึ่งเหตุการณ์ของ เลวานดอฟสกี้ นั้น เดี๋ยวนี้เขาทำผลงานแทรกกับ ปิแอร์-เอเมอริค โอยาเมย็อง ที่ยิง 14 ประตูเท่ากัน ลุ้นเป็นดาวซัลโวสูงสุดบุนเดสลีกา

โดยในเกมชนะสตุ๊ตการ์ท 4-0 อาร์เยน 1 ประตู รวมทั้ง เลวานดอฟสกี้ ยิง 1 ประตู ซึ่งเมื่อมองสถิติย้อน กลับตั้งแต่เปิดฤดู ดั๊กลาส คอสต้า เปิดบอลให้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ยิง 3 ประตู พอๆกับ การสนับสนุนจาก โธมัส มุลเลอร์ ที่ป้อนให้ได้ยิง 3 ประตูเช่นเดียวกัน

แม้กระทั้ง คิงส์ลี่ย์ โคม็อง นักฟุตบอลเกมรุกกลุ่มชาติประเทศฝรั่งเศสที่เป็นเด็กหนุ่มดาวรุ่งพรสวรรค์ที่พุ่งขึ้นมา ก็เปิดบอลให้แผงหน้ากลุ่มชาติโปแลนด์ยิง 1 ประตู ซึ่งเป็นการเปิดบอลจากขอบทางด้านขวา

ทำเอาเพื่อนในกลุ่มเอฟซี บาเยิร์น มิวนิคถึง กับล้อถามว่า เลวานดอฟสกี้นั้น ไม่ตกใจเลยหรือที่จู่ๆก็ได้ลูกป้อน ให้ทำประตู จากทางด้านฝั่งขวา ซึ่งธรรมดาแล้วการขึ้นเกมทางด้านนี้ แทบจะไม่  เคยส่งให้ เลวานดอฟสกี้เลย

สปอร์ตไดเรกเตอร์ มัทธีอัส ซามเมอร์ พูดถึงภาวะ สถานะที่ความเกี่ยวเนื่องระหว่าง อาร์เยน ร็อบเบน กับ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ว่า ”ผมมองเห็นทุกอย่างอยู่แล้ว ซึ่งก็แน่ๆแล้วว่ามีอยู่บ้าง 1-2 เรื่องราวที่ ควรที่จะ ผ่านบอลให้เพื่อน

แม้กระนั้นเขาก็ ยิงประตูตอบแทน กลุ่มได้เช่นกัน” สำหรับการที่ ไม่ผ่านบอลให้ เลวานดอฟสกี้ นั้น สปอร์ตไดเรกเตอร์ มัทธีอัส ซามเมอร์ พยายามที่จะลดดีกรีความร้อนแรงลงมา “ถ้าว่านักเตะของพวกเราบางคนออกอาการโกรธ ผมเองก็ไม่มีปัญหาอะไร ผมคิดว่าตลอดทาง อาชีพค้าลำแข้ง ของผมนั้นจะต้องขึ้งโกรธคนอื่นมากมายครั้งแค่ไหน ?”

เลวานดอฟสกี้เผย เทรนเนอร์ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า นั้น ขึ้นชื่อว่าเป็นคนที่เกลียด การแสดงออกซึ่งเห็นแก่ตัว เขาได้พูดว่า “อันนี้เป็นเรื่อง ของลักษณะนิสัยของ ผมเป็นเทรนเนอร์ที่ดีคนหนึ่ง แต่ว่าก็ไม่ดีมากพอที่จะไปเปลี่ยน นิสัยของ ร็อบเบน ที่อายุ 31 ปีเข้าไปแล้ว”

สำหรับ ริชาร์ด สกูเดมอร์ บิ๊กบอสของพรีเมียร์ลีกอังกฤษนั้น จำนวนเงินนับพันล้านยูโรที่ได้จากการขายลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์นั้น เป็นขุมทรัพย์ที่กระจายลงสู่สมาพันธ์บอลต่างๆในอังกฤษ ที่ทำให้แต่ละสมาพันธ์มีกำลังซื้ออย่างมากมาย

เลวานดอฟสกี้เผย อันจะมีผลให้นักเตะสตาร์ถูกกว้านซื้อมารวมกันอยู่ในอังกฤษ รวมทั้งเขายังชี้ถัดไปอีกว่ากีฬาบอลนั้นอยู่ในสถานะซึ่งสามารถชักพาผู้คนโดยเฉพาะเยาวชนหนุ่มน้อยเด็กผู้หญิงได้มากกว่าการใช้การเมืองเป็นเครื่องมือนั้นเสียอีก แล้วก็เขาก็ทราบว่าพรีเมียร์ลีกของอังกฤษนั้น ยังจะเป็นลีกที่มีอำนาจมากขึ้นอีก โดยเวลานี้จัดแจงที่จะเรียกเงินที่โตขึ้นสำหรับในการประมูลลิขสิทธิ์โทรทัศน์นั้นอีก

ขณะนี้ก็แว่วข่าวสาร ออกมาแล้ว ว่าการขายลิขสิทธิ์ทางโทรทัศน์ให้กับชาติต่างๆนั้น ราคาตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นไปจะอยู่ที่ 1.5 พันล้านยูโรต่อปี นอกจากนั้นก็ยังมีตัวเลขอีก 2.5 พันล้านยูโรจากการใช้ลิขสิทธิ์ทีวีในประเทศ

เพียงแค่ช่วงหลัง ได้รับบาดเจ็บ 7 อาทิตย์ ทำให้เป็น คิงสลี่ย์ โคม็อง ที่ได้ทำหน้าที่ด้านนี้ โดยที่ผ่านมา สำหรับใน การลงเล่น เกมบุนเดสลีกา ด้วยกัน 25 นัด อาร์เยน เปิดให้ เพียงแค่ 3 ประตูเท่านั้น

เลวานดอฟสกี้เผย ด้วยเหตุนี้ก็เลยน่าไว้วางใจเลยว่าในช่วงต่อตั้งแต่นี้ไปสโมสรบอลจากอังกฤษจะมีกำลังซื้อในการดึงนักเตะสตาร์-ซูเปอร์สตาร์ไปร่วมสังกัด ไม่ว่าจะเป็น โธมัส มุลเลอร์ ของเอฟซี บาเยิร์น มิวนิค เบเนดิคท์ โฮเวเดส ของชาลเก้ 04 คาริม เบลลาราบี้ ของไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น และโรดริเกซ ของโวล์ฟสบวร์ก

ชื่อเหล่านี้เป็นชื่อที่อยู่ในความสนใจของบรรดากลุ่มน้อยใหญ่ทั้งสิ้น ซึ่งก็เห็นทีว่าอาการสมองไหลแบบนี้ได้เกิดขึ้นแน่กับกลุ่มต่างๆในบุนเดสลีกา โดยเวลานี้มีข้อเสนอเข้ามาสำหรับการย้ายกลุ่มในปี 2016 แล้ว ซึ่งแน่ๆว่าบรรดานักเตะต่างก็ทำตาโตเมื่อมองเห็นจำนวนที่กองอยู่ข้างหน้า ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกประหลาดอะไร